งานวิจัยผลสัมฤทธ์ทางการศึกษา การเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์แบบดั้งเดิม
และแบบเน้นการทดลอง สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมถึงชั้นมัธยม

การวิจัยเกี่ยวกับผลสัมฤทธ์ของการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์แบบดั้งเดิมและแบบเน้นการทดลองสำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมถึงชั้นมัธยม มีหลายงานที่ได้นำเสนอผลการศึกษาที่น่าสนใจ ตัวอย่างหนึ่งคืองานวิจัยของ Tanja et al. (2020) ที่ได้ศึกษาผลของการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์แบบเน้นการทดลองในชั้นเรียนประถมศึกษาขั้นต้นในโรงเรียน ในสำนักงานเขตการศึกษาเชียงใหม่ ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนที่เรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ด้วยวิธีการทดลองมีผลสัมฤทธ์ทางการเรียนที่ดีกว่านักเรียนที่เรียนแบบดั้งเดิม โดยมีการเน้นถึงความเข้าใจที่ดีของหลักการทางวิทยาศาสตร์และการพัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์ในนักเรียน ในกลุ่มทดลองมากกว่า นอกจากนี้ยังพบว่าการเรียนรู้ที่สนุกสนานและเพลิดเพลินของนักเรียนมีมากขึ้น เมื่อเป็นการเรียนที่มีการทดลองมากขึ้นด้วย

ตัวอย่างงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับผลสัมฤทธ์ของการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์แบบดั้งเดิมและแบบเน้นการทดลอง สำหรับนักเรียนในระดับต่างๆ

1. Hofstein, A., & Lunetta, V.N. (2004)

ศึกษาผลของการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์แบบเน้นการทดลองในระดับชั้นมัธยมศึกษา ผลการวิจัยพบว่านักเรียนมีการเรียนรู้ที่มีความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการเรียนแบบดั้งเดิมนอกจากนี้ยังพบว่านักเรียนมีทักษะการทดลองพัฒนามากขึ้นเมื่อได้รับการเรียนรู้แบบนี้ (อ้างอิง: Hofstein, A., & Lunetta, V.N. (2004) The laboratory in science education : Foundations for the twenty-first century. Science Education, 88 (1), 28-54.)

2. Lazarowitz, R., & Tamir, P. (1994)

ศึกษาผลของการใช้การทดลองในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ที่ระดับชั้นมัธยมศึกษา พบว่าการทดลองช่วยให้นักเรียนมีความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ที่ลึกซึ้งขึ้นและสามารถต่อสู้กับปัญหาทางวิทยาศาสตร์ได้ดีขึ้น (อ้างอิง: Lazarowitz, R., & Tamir, P. (1994). Research on using laboratory instruction in science. In D.L. Gabel (Ed.), Handbook of research on science teaching and learning (pp. 94-128). Macmillan.)

3. Windschitl, M. (2003)

ศึกษาผลการทดลองในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ที่ระดับมัธยมศึกษา พบว่าการทดลองช่วยให้นักเรียนเชื่อมโยงการเรียนรู้วิทยาศาสตร์กับประสบการณ์ทางชีวิตของพวกเขาได้มากขึ้น และส่งผลให้พัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์ได้มีประสิทธิภาพ (อ้างอิง : Winsdschitl, M. (2003). Inquiry project in science teacher education: What can investigative experiences reveal about teacher thinking and eventual classroom practice? Science Education, 87(S1), 112-143.)

4. Lunetta, V.N., Hofstrin, A., & Clough, M.P. (2007)

ศึกษาเปรียบเทียบผลของการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์แบบเน้นการทดลองและไม่เน้นการทดลอง พบว่านักเรียนที่ได้รับการเรียนรู้แบบทดลองมีความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ที่ดีกว่าและมีทักษะการทดลอง ที่พัฒนามากขึ้น (อ้างอิง: Lunetta, V.N., Hofstein, A., & Clough, M.P. (2007). Learning and teacher in the school science laboratory: An analysis of research, theory, and practice. In S.K. Abell & N.G. Lederman (Eds.), Handbook of research on science education (pp. 393-441). Lawrence Erlbaum Associates.)

5. Hattie, J., & Yates, G. (2014)

ศึกษาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และมีการทดลองที่มีผลกับผลสัมฤทธ์ทางการเรียนของนักเรียน การวิจัยพบว่าการใช้กิจกรรมการทดลองในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ที่มีผลลัพธ์ที่ดีกว่าการเรียนแบบทฤษฏีเท่านั้น (อ้างอิง: Hattie, J., & Yates, G. (2014). Visible learning and the science of how we learn. Poutledge.)

หากจะสรุปบทความงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ออกเป็นประโยชน์และแนวทางในการพัฒนาการเรียนการสอนสามารถสรุปได้ดังนี้

1. การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์แบบเน้นการทดลองช่วยให้นักเรียนมีคาวมเข้าใจที่ลึกซึ้ง :

งานวิจัยหลายราย (เช่น Tanja et al., 2020; Abd-El-Khalick & Lederman, 2000; Hofstein & Lunetta, 2004) พบว่าการเรียนรู้ที่เน้นการทดลองช่วยเสริมพัฒนาการเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนได้มากขึ้น เนื่องจากนักเรียนมีโอกาสได้ลงมือทดลองเอง ทำให้พึงพอใจและเรียนรู้ได้โดยมีความสุขมากขึ้น (Lazarowitz & Tamir, 1994).

2. พัฒนาทักษะการทดลองทางวิทยาศาสตร์ :

การทดลองช่วยให้นักเรียนพัฒนาทักษะการทดลองวิทยาศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น (Lunetta, Hofstein & Clough, 2007). นักเรียนมีโอกาสทดลองแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์จริงๆ ทำให้สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ได้ในสถานการณ์จริงของชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น (Windschitl, 2003).

3. การเชื่อมโยงระหว่างการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์และประสบการณ์ชีวิต :

การทดลองช่วยให้นักเรียนเชื่อมโยงการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์กับประสบการณ์ในชีวิตจริงของพวกเขาได้มากขึ้น (Windshitl, 2003). นักเรียนมีโอกาสเรียนรู้ในบริบทที่มีความหมายและนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น เช่น การใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน

4. ผลสัมฤทธ์ทางการเรียนที่ดีกว่า :

หลายงานวิจัย (เช่น Tanja et al., 2020; Hattie & Yates, 2014) พบว่าการเรียนรู้ที่เน้นการทดลองมีผลสัมฤทธ์ทางการเรียนที่ดีกว่าการเรียนแบบทฤษฏีเท่านั้น นักเรียนมีการเรียนรู้ที่เข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้น และมีพฤติกรรมเรียนรู้ที่เป็นระบบมากขึ้น

5. การพัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์ :

การทดลองช่วยให้นักเรียนพัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์ เช่น การตั้งสมมติฐาน การออกแบบการทดลอง การเก็บรวบรวมข้อมูล และการวิเคราะห์ผลที่ได้ (Abd-El-Khalick & Lederman, 2000).

จากสรุปจะเห็นได้ว่าการใช้การทดลองในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะของนักเรียนอย่างชัดเจน โดยการเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์แบบนี้ช่วยให้นักเรียนเกิดความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ที่ลึกซึ้งและมีความสามารถในการประยุกต์ใช้ความรู้ได้ในชีวิตประจำวันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ซายเอนเทีย เราดำเนินการสอนในรูปแบบทางการเน้นการทดลองมาตลอดยาวนานกว่า 17 ปี เพื่อเด็กนักเรียนตั้งแต่ชั้น อนุบาล ไปจนถึง มัธยมต้น พบกับซายเอนเทียได้ทุกสาขา

- สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า Tower B ชั้น 8
- สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น 11
- สาขาพญาไท CP3 Tower A ชั้น 2 (ติด BTS สถานีพญาไท ทางออก 3)
- สาขาพระราม3 ศูนย์การค้าทรีออนธรี ชั้น 2 (โซนการศึกษา)

เพื่อการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพเข้าใจและสนุกไปพร้อมๆกัน เรียนรู้อย่างฉลาด เก่งวิทยาศาสตร์ที่ซายเอนเทียนะคะ

สนใจหรือต้องการจองรอบสามารถทัก Inbox เข้ามาได้เลยรีบหน่อยนะ ที่นั่งมีจำนวนจำกัด
โทร : 085-800-4848
Line : @scientia
Facebook : Scientiakid

👩🔬 เรียนรู้อย่างฉลาด เก่งวิทยาศาสตร์ที่ "ซายเอนเทีย"
👨⚕ เรียนรู้ด้วยการลงมือทำ จะจดจำได้อย่างยาวนาน
🏆 การันตีผลงานด้วยการสร้างรางวัล สสวท. และระดับนานาชาติ ให้กับเด็กๆ มาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี
#Scientia #ซายเอนเทีย #เตรียมสอบ #ค่ายหมอ #ค่ายเตรียมหมอ #ค่ายสายแพทย์ #เตรียมติดหมอ #สอบหมอ #แพทย์ #ทันตะ #สัตวแพทย์ #เภสัช #เทคนิคการแพทย์ #สหเวช #พยาบาล #สาธารณสุข #วิทย์ประถม #ประถม #ค่ายวิทย์ประถม #เด็กประถม #camp